วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิธีเปลี่ยน Cursors Mouse หรือรูปไอคอนเมาส์ใน Windows


              Cursors Mouse ก็คือ รูปไอคอนที่แสดงบนหน้าจอเวลาเราเลื่อนเมาส์ไปในที่ต่างๆ พูดง่ายๆก็คือลูกศรของเมาส์ที่เราใช้ชี้ไปมานั่นเอง

              แต่ในคอมพิวเตอร์บางเครื่อง ไม่ได้เป็นลูกศรเสมอไป อาจเป็นรูปลายการ์ตูนหรือโลโก้ต่างๆ ซึ่งสามารภเปลี่ยนได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้

              ความจริงแล้วในระบบปฏิบัติการ Windows ก็มีรูป Cursors Mouse ให้เราเลือกใช้กันพอสมควร แต่บางคนอาจต้องการลายอื่นๆทีน่ารักๆกว่านี้ก็สามารถไปดาวน์โหลดมาติดตั้งได้เช่นกันครับ ตามนี้เลย

ดาวน์โหลด Cursors Mouse สวยๆ คลิกที่นี่

                เมื่อดาวน์โหลด Cursors Mouse ที่ต้องการมาแล้ว มาดูวิธีการติดตั้งใช้งานกันเลยครับ

                1.) คลิกขวาที่ Desktop เลือก Personalize จากนั้นดูแถบด้านซ้าย เลือกที่เมนู Change mouse pointers ดังรูป



                 2.) จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Mouse Properties ให้คลิกที่ปุ่ม Browse จะปรากฏต่างเลือก Cursors ใน Windows ตามต้องการได้เลย จากนั้นก็กดปุ่ม Apply และ OK ตามลำดับ




                 3.) แต่ในกรณีที่เราดาวน์โหลด Cursors มาจากเว็บที่แนะนำไปมา ให้ไปที่เมนู Browse เช่นกัน แต่ให้ไปเลือกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา จากนั้นกด Apply และ OK เช่นกัน 



                4.) เพียงเท่านี้ก็จะได้ Cursor Mouse ลายที่ต้องการแล้วครับ


วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เสียง Beep ก่อนเข้า Windows บอกอาการเสียได้



                หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาเกิดขึ้น ในกรณีที่เป็นเครื่อง Desktop computer นั้น ช่างเทคนิคจะฟังเสียงต่างๆตอนเปิดเครื่อง ว่ามีเสียงบิ๊บอย่างไร และวิเคราะห์อาการเสียตามเสียงบิ๊บที่ออกมา

                เสียงบิ๊บจะมีหลายแบบ ตามอาการเสีย และการไบออสของรุ่นนั้นๆ ดังนี้


ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส Award

เสียงบี๊บสั้นๆ 1 ครั้ง
(Beep)                                                เครื่องทำงานปกติดี , POST ผ่าน

เสียงบี๊บสั้นๆ 2 ครั้ง /
(Beep Beep)                                        เครื่องทำงานผิดปกติ , POST ไม่ผ่าน

เสียงบี๊บสั้นๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง
(Beep Beep Beep Beep Beep)                แหล่งจ่ายไฟ (PowerSupply)
                                                               หรือเมนบอร์ดมีปัญหา

เสียงบี๊บยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 1 ครั้ง
(Beep... Beep)                                         เมนบอร์ดมีปัญหา

เสียงบี๊บยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 3 ครั้ง
(Beep... Beep Beep Beep)                 การ์ดจอเสียบไม่แน่น หรือการ์ดจอเสีย

เสียงบี๊บยาวๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง
(Beep... Beep... Beep... Beep... Beep...) แรมเสียบไม่แน่น
                                                                หรือหน้าสัมผัสสกปรก

ไม่มีเสียงเลย                                          BIOS ล่ม, power supply มีปัญหา
                                                                 หรือเมนบอร์ดเสีย



ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส AMI

ดัง 1 ครั้ง             เครื่องทำงานปกติดี, POST ผ่าน
ดัง 2 ครั้ง             หน่วยความจำส่วนแรกสุด (64k) มีปัญหา
                           ตรวจสอบ partition ไม่ผ่าน
ดัง 3 ครั้ง             การทดสอบการอ่าน/เขียนข้อมูลในหน่วยความจำมีปัญหา
ดัง 4 ครั้ง             วงจรตั้งเวลาตัวหลักบนเมนบอร์ดมีปัญหา
ดัง 5 ครั้ง             CPU มีปัญหา
ดัง 6 ครั้ง             ตัวชิปที่ควบคุมการทำงานของ keyboard มีปัญหา
ดัง 7 ครั้ง             เกิดปัญหาในการเปลี่ยน mode การทำงานของ CPU
ดัง 8 ครั้ง             หน่วยความจำบนการ์ดจอมีปัญหา (การ์ดเสีย)
                           หรือการ์ดเสียบไม่แน่น หน้าสัมผัสสกปรก
ดัง 9 ครั้ง              BIOS มีปัญหา
ดัง 10 ครั้ง           CMOS มีปัญหา ไม่สามารอ่านเขียน CMOS ได้
ดัง 11 ครั้ง           หน่วยความจำ cache มีปัญหา


ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส Phoenix

ลักษณะเสียง       อาการเสีย
1-1-3             CMOS มีปัญหาไม่สามารถอ่านเขียน CMOS ได้
1-1-4             BIOS มีปัญหา
1-2-1             วงจรตั้งเวลาตัวหลักบน Mainboard มีปัญหา
1-2-2             Mainboard มีปัญหา
1-2-3             Mainboard มีปัญหา
1-3-1             Mainboard มีปัญหา
1-3-3             RAM มีปัญหา
1-3-4             RAM มีปัญหา หรือ Mainboard มีปัญหา
1-4-1             RAM มีปัญหา หรือ Mainboard มีปัญหา
1-4-2             RAM มีปัญหา
2-1-1 / 2-1-2       RAM มีปัญหา
2-1-3 / 2-1-4     RAM มีปัญหา
3-1-0             Chip บน Mainboard มีปัญหา
3-1-1 / 3-1-2     Mainboard มีปัญหา
3-1-3 / 3-1-4     Interrupt มีปัญหา
3-2-4             Chip บน Mainboard มีปัญหา (ทำงานผิดพลาด)
3-3-4 / 3-4-0     การ์ดจอมีปัญหา
3-4-1 / 3-4-2     การ์ดจอมีปัญหา
4-2-1             Chip บน Mainboard มีปัญหา
4-2-2 / 4-2-3     Chip ควบคุมการทำงานบน keyboard เสีย
4-2-4             อุปกรณ์การ์ด หรือ Mainboard มีปัญหา
4-3-1             Mainboard มีปัญหา
4-3-2 / 4-3-3     Mainboard มีปัญหา
4-3-4            ไม่สามารถตั้งเวลาได้ แบตเตอรี่บน Mainboard หมด
4-4-1             Serial port มีปัญหา
4-4-2             Parallel Port มีปัญหา
4-4-3             CPU เสีย

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การลบ User Accounts ใน Windows


                 โดยปรกติแล้ว User Accounts ใน ระบบปฏิบัติการ Windows ใช้ในการป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาเล่นคอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละเครื่องอาจมีได้มากกว่า 1 User Accounts และแต่ละ User Accounts ก็สามารถมีโปรแกรมและข้อมูลแตกต่างกันได้เลย แล้วแต่ว่าผู้ใช้จะลงโปรแกรมอะไรบ้าง

                 แต่ในบางครั้งอาจมีผู้ใช้บางคนเผลอกดเพิ่ม User Accounts เองโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ไม่ทราบว่าจะลบอย่างไร บทความนี้จะมาแนะนำถึงวิธีการลบ User Account ที่ไม่ต้องการครับ

วิธีการลบ User Accounts

                 1.) ไปที่ Control Panel > User Accounts and Family Safety > User Accounts หรือไปที่ Start Menu แล้วคลิกที่รูปภาพ User Accounts จะปรากฏหน้าต่าง User Accounts ดังรูป ให้คลิกที่ "Manage Another Account"


                  2.) จากนั้นให้เลือก User Accounts ที่ต้องการจะลบ แล้วคลิกที่ "Delete the account" ดังรูป



                 3.) จากนั้นระบบจะถามเตือนว่าถ้าลบไปแล้วข้อมูลในส่วนของ User Account ที่ลบไปจะไม่สามารถใช้งานได้ ให้เรากด Delete ไปเลยครับ ดังรูป



เพียงเท่านี้ก็เหลือแต่ User Accounts ที่ต้องการแล้วครับ

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตใน Windows


วิธีเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ต

                ในการใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้น ระบบและข้อจำกัดบางอย่างจะทำให้ความเร็วการใช้งานอินเตอร์เน็ตลดลง แต่สามารถเพิ่มประสิทธภาพให้ทำงานได้เต็มที่ได้ ดังนี้

1. ) การปรับ Limit

ไปที่ start---> run---> พิมพ์ gpedit.msc กด ok

จะแสดงหน้าต่าง Group Policy ที่ computer config.. เลือก Administrative Templates

ที่หัวข้อ network เลือกที่ QoS Packet Scheduler

มองหน้าต่างขวามือ ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwith

จะขึ้นหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwith Propoties เลือกแถบ setting คลิกเลือกที่ช่อง Enable

และในกรอบ Bandwith limit(%) ปรับเป็น 0 แล้วกด ok

2.) MTU

            เป็นหน่วยหนึ่งที่ใช้กำหนดค่าให้กับการ รับส่งข้อมูลผ่านระบบเครื่อข่าย ที่สูงสุดใน การส่งแต่ละครั้ง ถ้าเราตั้งค่าให้ค้นหาค่า MTU แบบอัตโนมัติ ก็จะทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไปที่ Start---> run--->พิมพ์ regedit แล้วกด Ok

HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet--->Services--->Tcpip---> Parameters

คลิกขวาที่ Parameters เลือก new > DWORD Value

ตั้งชื่อว่า EnablePMTUDiscovery

แล้วดับเบิ้ลคลิก พิมพ์ค่าเป็น 1แล้วกด ok

3.) เพิ่มการรับส่งข้อมูล MTU 

               การเพิ่มค่า MTU ให้มากที่สุด ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ระบบการรับส่งข้อมูล ทางอินเตอร์เน็ตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไปที่ Start---> Run---> พิมพ์ regedit แล้วกด Ok

HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet--->Services--->Tcpip---> Parameters---> interfaces

คลิกที่หน้า interfaces จะมีหลายโฟลเดอร์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แรก--->new--> DWORD Value--->แล้วตั้งชื่อว่า MTU

แล้วดับเบิ้ลคลิกใส่ ค่า

ถ้าเป็น dial-up Connection ใส่ค่า = 576

ถ้าเป็น PPP Broadband Connecting ใส่ค่า = 1492

ถ้าเป็น Ethernet , DSL , Cable Broadband Connection ใส่ค่า = 1500

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีการตั้งค่า Screen Resolution ปรับขนาดจอภาพ Windows7


                ในระบบปฏิบัติการ Windows สามารภตั้งค่า Screen Resolution คือการ ตั้งค่าหน้าจอให้มีขนาดเล็กหรือใหญ่ได้ ตามความเหมาะสมของภาพ หรือตามความชอบใจของเราเอง 


                 ถ้ายังนึกภาพไม่ออกว่าคือการตั้งค่าอะไร ให้นึกถึงไอคอนบนหน้า Desktop ว่าแต่ละเครื่องจะมีขนาดเล็กและใหญ่ไม่เท่ากัน ตัวอักษรและเมนูต่างๆก็ต่างกัน ตรงส่วนนี้เองที่เรียกว่า Screen Resolution

                 ส่วนใหญ่แล้ว Screen Resolution หากเป็น Notebook จะตั้งค่ากันที่ประมาณ 1366x768 แต่ถ้าหากเป็น Desktop PC อาจจะน้อยกว่านี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและขนาดของจอ Monitor ด้วยว่าเหมาะสมกับค่าไหน

คราวนี้มาดูกันว่า จะตั้งค่า Screen Resolution ได้อย่างไร



                 1.) ไปที่ Control Panel > Apperance and Personolization > Display > Screen Resolution ดังรูป



             
                 2.) จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Change the appearance of your display ให้ไปเลือกปรับที่ Resolution ดังรูป จากนั้น คลิก Apply ดู แล้วก็ OK




วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

การเพิ่ม Icon Task bar มุมขวาใน Windows7



                System Icons Task bar จะอยู่มุมล่างขวาของหน้าจอ จะแสดงเวลา วันที่ ลำโพง แบตเตอรี่ เน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เราสามารถปรับแต่งได้ครับว่าจะเลือกให้ Show system icons Task bar ตัวใดบ้าง ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้


                ไปที่ Control Panel > All Control Panel items > Notification Area icons > system icons จะปรากฏหน้าต่าง Turn system icons on or off 

                 หรือจะคลิกขวาที่มุมขวาของ Task bar แล้วเลือก Properties ก็ได้ จะปรากฏดังรูป





                  จากนั้นหากต้องการให้มี icon Task bar อะไรปรากฏขึ้นมาบ้าง ก็สามารถคลิกที่ On หรือ Off ได้เลย จากนั้นก็กด Ok

การเซ็ทปุ่มเปลี่ยนภาษาใน Windows




               โดยปรกติแล้ว รบบปฏิบัติการ Windows ส่วนใหญ่ มักจะใช้กันอยู่ 2 ภาษาหลัก นั่นคือไทยและอังกฤษ ซึ่งการเปลี่ยนภาษาไปมาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพิมพ์ข้อความให้สะดวกรวดเร็ว

                 ซึ่ง การเซ็ทปุ่มเปลี่ยนภาษาใน Windows มันจะใช้ปุ่มตัวหนอน เนื่องจากว่าเป็นปุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้ และถ้าหากจะใช้จริงๆ ก็สามารถกดปุ่มอื่นๆแทนได้

                 การเซ็ทปุ่มเปลี่ยนภาษาใน Windows นั้น ทำดังนี้


                1.) คลิกขวาที่เมนูภาษาที่ Task bar แล้วเลือก Setting... ดังรูป



                  2.) จะปรากฏหน้าต่าง Text Services and Input Languages ให้คลิกที่แท็ป Advanced Key Settings จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม Change Key Sequence ต่อไป ดังรูป


                 3.) จะปรากฏหน้าต่าง Change Key Sequence ให้ทำการเซ็ทค่าต่างๆดังรูป แล้วกด OK



                 หลังจากที่เซ็ทค่าเรียบร้อยแล้ว เมื่ออกมาสู่เมนูหลักในหน้า Text Services and Input Languages อย่าลืมกดปุ่่ม Apply ด้วยนะครับ เท่านี้ก็เรียบร้อย

วิธีการ Backup ข้อมูลใน Windows7



                หากผู้ใช้งานเป็นผู้ที่เก็บไฟล์ข้อมูลสำคัญต่างๆไว้มากๆ แล้วกลัวว่าวันหนึ่งวันใดข้างหน้าจะเกิดปัญหาขึ้นกับข้อมูลนั้นๆ เราสามารถตั้งค่า Backup and Restore ได้

                Backup and Restore ก็คือการสำรองข้อมูลต่างไว้ เพื่อเรียกใช้คืนในอนาคต ในกรณีที่ข้อมูลสูญหาย หรือระบบในเครื่องเกิดปัญหาจนแก้ไขไม่ได้ ซึ่งมีวิธีการดังนี้

                1.) ไปที่ Start Menu ในช่องค้นหาให้พิมพ์ว่า Backup จะปรากฏเมนูขึ้นมาให้คลิกที่ "Backup and Restore" ดังรูป


                2.) จากนั้นคลิกที่ Set up backup ดังรูป


               3.) จากนั้นเลือก Drive ที่ต้องการเก็บข้อมูล Backup แล้วคลิก Next แล้วคลิกที่ Save settings and run backup อีกที




                 4.) จากนั้นรอระบบ Backup ข้อมูลสักครู่จนเสร็จสิ้น (สีแดง)



                 เพียงเท่านี้ก็สามารถ Backup ข้อมูลได้แล้ว เมื่อถึงเวลาเครื่องมีปัญหา ก็มาที่ Backup and Restore อีกครั้ง แล้วไปคลิกที่ปุ่มคำสั่งว่า "Restore my files" ระบบทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนที่เราทำการ Backup ข้อมูล

เทคนิคการประหยัดพลังงาน battery ใน Windows7


               ระบบปฏิบัติการ Windows ก่อนหน้านี้มีระบบการจัดการเกี่ยวกับพลังงานได้ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ทำให้ผู้ใช้โน๊ตบุคหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่หมดเร็ว แต่ปัญหาที่ว่านี้จะน้อยลงกว่าเดิมหากใช้ Windows 7

               ก่อนอื่นก็ต้องมาดูก่อนว่า ในคอมพิวเตอร์นั้นมีอุปกรณ์อะไรบ้างที่รับประทานไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด ดังรูป




                จากรูปจะเห็นว่าหน้าจอนั้นกินไฟเยอะจริงๆ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการใช้งานทั้งหมด รองลงมาคือ ชิปเซ็ทและโปรเซสเซอร์ตามลำดับ

                ดังนั้นหากต้องการประหยัดพลังงาน ในกรณีที่แบตใกล้หมด ควรลดแสงหน้าจอก่อนโดยวิธีการดังต่อไปนี้

                 1.) ไปที่ Task bar คลิกขวาที่รูปแบตเตอร์รี เลือก "More power setting"



                 2.) จากนั้นจะปรากฏหน้า Select a power plan สังเกตุด้านล่างจะมี Screen brightness ตัวปรับความสว่างอยู่ ส่วนหากต้องการกำหนดรายละเอียดอื่นๆให้คลิกที่ Change plan setting


                    3.) เลือกปรับตามความเหมาะสมแล้วคลิกที่ Save Changes


การใช้งานโปรแกรมเวอร์ชันเก่าใน Windows7


              เมื่อเลือกที่จะใช้งานระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่าง Windows7 ก็ต้องทำใจในเรื่องของโปรแกรมเก่าๆที่ไม่สามารถนำมาใช้งานร่วมกับ Windows 7 ได้ แต่.... ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ความจริงแล้ว Windows7 สามารถปรับแต่งให้สามารถใช้ได้กับโปรแกรมสำหรับ Windows รุ่นเก่าๆได้ ดังนี้

เมื่อต้องการใช้โปรแกรมสำหรับ Windows เวอร์ชันเก่าให้ทำดังนี้

               1.) ไปที่เมนู Start > Control Panel > Programs ให้ดูตรงเมนูย่อยของ Programs and Features คลิกที่คำว่า "Run programs made for previous versions of Windows"


             2.)  จากนั้นรอระบบทำงานสักครู่จะปรากฏหน้า Programs Compatibility ให้คลิกปุ่ม Next






             3.)  จากนั้นให้เลือกโปรแกรมเวอร์ชันเก่าๆ ที่ต้องการนำมาใช้ใน Windows7 แล้วกดปุ่ม Next




              เท่านี้ก็สามารถใช้งานโปรแกรมสำหรับ Windows เวอร์ชันเก่าๆได้แล้ว

Ready Boost เพิ่มความเร็วคอมพิวเตอร์ด้วย Flash Drive

              หลายคนที่ชอบมีปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้า สาเหตุหนึ่งก็มาจาก Harddisk เก่ามากแล้ว และหน่วยความจำก็น้อย หรือไม่ก็ข้อมูลใน Harddisk ก็มากเกินไป ทำให้ Harddisk ทำงานได้ไม่เต็ม ประสิทธิภาพ

               แต่ปัญหานี้จะหมดไปสำหรับผู้ใช้ Windows7 เพราะมีระบบพิเศษที่เรียกว่า "Ready Boost" คือการใช้ Flash Drive ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ 

               สำหรับใครที่มี Flash Drive ไม่ว่าจะเป็นความจุเท่าไหร่ก็ตาม ลองนำมาใช้เพิ่มความเร็วของคอมพิวเตอร์ดู โดยการใช้แทน Harddisk เนื่องจากว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะดึงเอาข้อมูลใน Flash Drive ได้เร็วกว่าใน Harddisk  ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น

ขั้นตอนการทำ Ready boost ใช้งานมีดังนี้

               1.)  เสียบ Flash Drive เข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ จะปรากฏหน้าต่าง AutoPlay ขึ้นมาดังรูป ให้คลิกคำว่า "Speed up my system"



               2.)  ไปที่แท็บ ReadyBoost แล้วเลือกคลิกที่ช่อง "Use this Divice" จากนั้นคลิก "Apply" และ "OK" ตามลำดับ




                3.) จากนั้นรอสักครู่เพื่อให้ระบบคำนวนพื้นที่ของ Flash Drive เมื่อระบบทำงานเสร็จแล้วจะมีไฟล์เกิดขึ้นใน Flash Drive ชื่อว่า "ReadyBoost" ซึ่งทำหน้าที่เปรียบเหมือน RAM ตัวที่สองของเครื่อง ส่งผลให้การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพ และไหลลื่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง




Sticky Notes โปรแกรมกระดาษแปะกันลืมใน Windows7


               คนที่ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา บางทีมักมีงานหลายๆอย่างเข้ามาพร้อมกัน แล้วใครล่ะจะไปจดจำได้หมด

               แต่ว่า Accessories ของ Windows มีตัวช่วย นั่นคือ โปรแกรม "Sticky Notes" เป็นโปรแกรมเล็กๆเหมือนกระดาษโน๊ตกันลืมที่ชอบใช้กัน ลักษณะก็คือ เปิดโปรแกรมขึ้นมา แล้วจะมีกระดาษเล็กๆ โผล่ขึ้นมาให้ใส่ข้อความกันลืม

วิธีการใช้งาน Sticky Notes ดังนี้

             ไปที่เมนู Start > All Programs > Accessories > Sticky Notes จะปรากฏดังนี้


              การใช้งานก็แค่พิมพ์ข้อความลงไปเท่านั้นเอง ถ้าต้องการเพิ่มกด + ถ้าต้องการปิด ก็กด X ถ้าต้องการเปลี่ยนสีของกระดาษ ให้คลิกขวาที่หน้าดาษ จะมีแถบสีออกมาดังรูป เลือกสีได้เลย

              เป็นอย่างไรกันบ้าง โปรแกรมเล็กๆแต่มีประโยชน์ ลองนำไปใช้กันดูได้ งานที่เคยลืมกันบ่อยๆ อาจจะถูกแก้ด้วยเจ้า Sticky Notes ตัวนี้ก็ได้

วิธีดู Spec computer แบบละเอียดใน Windows


              ปรกติแล้ว การจะดูสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเบื้องต้น สามารถดูได้ที่ Properties ของ My Computer แต่ดูได้เพียงบางอย่างเท่านั้น ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ดูไม่ได้ เช่น สเปคฮาร์ดดิส สเปคการ์ดจอ และอื่นๆ

               ทีนี้ถ้าอยากจะทราบสเปคของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างละเอียดหน่อย ทำอย่างไร ความจริงแล้วมันก็มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ไปเช็คใน Bios หรือ Dos แต่ว่าใช้ "Run" ง่ายที่สุด เพราะทำในหน้าจอของระบบปฏิบัติการ Windows ได้ ทำดังนี้

               1.) คลิกที่เมนู Start เลือก Run หรือกด Windows+R ก็ได้ เพื่อเรียกใช้หน้าต่าง Run




                2.)  พิมพ์คำว่า "dxdiag" แล้วกด OK เพียงเท่านี้ก็จะได้รู้สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์แบบละเอียดได้แล้ว


วิธีติดตั้ง Font ใน Windows


           Font คือ แบบอักษร อธิบายให้ละเอียดอีกก็คือ รูปแแบบลักษณะของตัวอีกษรที่นักเขียนโปรแกรมทำขึ้นมาเพื่อเพิ่มลูกเล่นและสีสันในการพิมพ์ข้อความให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

              หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือผู้ใช้งานต้องการติดตั้ง Font ภาษาอื่นๆเข้าไปเพิ่ม เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฯลฯ เพื่อให้สามารถพิมพ์ใน Windows ได้


              สำหรับมือใหม่ที่ยังนึกภาพไม่ออก ก็ลองไปทำพร้อมกันดูเลย ดังนี้

ไปโหลด Font มาก่อน คลิกที่นี่


              เมื่อได้ Font ที่ชอบมาแล้ว ให้ทำการแตกไฟล์ก่อน ถ้ายังไม่ทราบว่าการแตกไฟล์คืออะไร ให้ไปดู วิธีการแตกไฟล์ด้วย Winrar ในบทความเก่าๆในบล็อคนี้ได้

เมื่อแตกไฟล์มาแล้ว ให้เปิดโฟลเดอร์ขึ้นมา จะพบว่ามี Font ต่างๆมากมาย ดังรูป


วิธีการติดตั้ง Font
                ง่ายๆเพียงดับเบิ้ลคลิก แล้วคลิกคำว่า "Install" ดังรูป



                 แต่ปัญหาก็คือว่า สมมุติว่าดาวน์ Font มาเป็นร้อยแบบ แล้วจะให้มานั่ง Install ทีละอันก็เสียเวลาเปล่า จึงมีวิธีติดตั้งทีเดียวทั้งหมด ดังนี้

                1.)  เปิดโฟล์เดอร์ขึ้นมาแล้วกดแป้นพิมพ์ Ctrl+A (เลือกไฟล์ทั้งหมด) และจากนั้นกดแป้นพิมพ์ Ctrl+C (คัดลอกไฟล์ทั้งหมด)

                2.)  จากนั้นไปที่ Drive : C > Windows > Font เมื่อเข้าไปแล้วจะสังเกตุเห็นว่ามี Font อยู่มากมาย ให้ไปคลิกในที่ว่างภายในโฟลเดอร์ Font สัก 1 ครั้ง แล้วกด Ctrl+V (วางสิ่งที่คัดลอกมา)

               เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย อธิบายหลักการก็คือ คัดลอกไฟล์ Font ที่ดาวน์โหลดมา ไปไว้ในที่เก็บ Font ของระบบปฏิบัติการ Windows นั่นเอง

วิธีเปิด Firewall เพื่อรักษาความปลอดภัยของ Windows

Firewall คืออะไร?

               ถ้าแปลกันตรงๆตัว ก็จะได้ว่า "กำแพงไฟ" ปรกติแล้วถ้าเวลาสร้างบ้าน ก็ต้องสร้างกำแพงด้วย เพื่อป้องกันการบุกรุกจากขโมย และผู้ไม่หวังดี บางคนก็ใส่ขวดแตกบนกำแพง บางคนก็ใส่ลวดหนาม เพื่อให้ผู้บุกรุกลำบากมากขึ้น ดังนั้นคำว่า "Firewall" หรือ "กำแพงไฟ" ก็คงจะเปรียบเสมือน เป็นกำแพงที่ถ้ามีคนจะเข้ามาบุกรุกก็ทำได้ยากนั่นเอง เพราะมีไฟด้วย 

ป้องกันการบุกรุกจากไหน?

                 ก็ป้องกันจากระบบเครือข่าย หรือที่เรียกว่า "Network" นั่นเอง หลักการทำงานก็คือ เจ้าตัว Firewall นี้ จะเป็นตัวการกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการเข้าหรือออก หรือการควบคุมการรับส่งข้อมูล ในระบบเครือข่าย ตรวจสอบความถูกต้องต่างๆเพื่อความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์

การป้องกันการเข้าถึงระบบ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท

               Logical Access หมายถึง การเข้าถึงผ่านระบบ Network เช่น ผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

               Physical Access หมายถึง การเข้าถึงในลักษณะถึงตัวเครื่องจริงๆ คือ การเข้าถึงในลักษณะเดินเข้ามาใช้งาน หรือลักลอบเข้ามาใช้งานถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ในระบบ Network นั้นๆโดยตรง

คุณสมบัติของ Firewall

Protect (ป้องกัน)
               Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกัน โดยข้อมูลที่มีการรับหรือส่งผ่านระบบเครือข่าย โดยจะถูกกำหนดเป็นกฏเกณฑ์ หรือ Rule เพื่อใช้บังคับในการสื่อสารภายในเครือข่าย (ข้อมูลที่มีการรับส่งภายใน หรือภายนอกระบบเครือข่าย เราเรียกว่า Package)

Rule Base (กำหนดกฏเกณฑ์)
               ข้อกำหนดในการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูลภายในระบบเครือข่าย ดังนั้น การติดตั้ง Firewall จะต้องมีการกำหนดกฏเกณฑ์ ในการควบคุมการทำงานในระบบเครือข่าย

Access Control (ควบคุมการเข้าถึง)
                หมายถึง การควบคุมระดับการเข้าถึง การรับ-ส่งข้อมูล

ทำไมต้องติดตั้ง Firewall

               ตอบง่ายๆเลยก็คือ สมัยนี้ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนไม่ต่ออินเตอร์เน็ต เมื่อต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว การทำงานก็ต้องเป็นระบบเครือข่าย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วการที่จะส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ก็ดี (E-mail) ดาวน์โหลดข้อมูลก็ดี (Download) หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆก็ดี จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีผู้บุกรุกแอบส่งสปายเข้ามา ขึ้นชื่อว่าผู้บุกรุก หรือผู้ลักลอบแล้ว ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์อย่างไรก็ตาม ย่อมไม่ต้องการเป็นแน่ ดังนั้น การมี Firewall ไว้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

วิธีการเปิด Firewall

               1.)  ไปที่เมนู Start > Control Panel > System and Security > Windows Firewall >Turn Windows Firewall on or off




              2.)  ส่วนใหญ่แล้วมันจะ on อยู่แล้ว แต่ถ้ามัน off ให้คลิกที่ Turn on ดังรูป



                ลำพังเพียงการเปิด Firewall อย่างเดียวคงไม่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์รอดพ้นไปจากน้ำมือผู้บุกรุกได้ เพราะฉนั้นควรหาโปรแกรมสแกนไวรัสและสปายแวร์มาลงไว้ด้วย ซึ้งหาได้จากบทความเก่าๆภายในบล็อคนี้ ชื่อว่า โปรแกรมแสกนไวรัส Avira Free